อิฐมอญ หรือ อิฐแดง วัสดุก่อสร้างยอดนิยมที่ใช้กันมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยอดีตกาล ด้วยคุณสมบัติ แข็งแกร่ง ทนทาน และสีสันที่ไม่มีวัสดุใดเหมือน ปัจจุบันอิฐมอญมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ จึงยังเป็นวัสดุที่ครองใจหลาย ๆ คน ในบทความนี้ อิฐดีดีเลยอยากจะพาทุกคนไปรู้จักกับอิฐมอญให้มากขึ้น ทั้งที่มา และขั้นตอนการผลิตที่คุณอาจยังไม่เคยรู้
ความเป็นมาของอิฐมอญ
ตั้งแต่ชาวมอญอพยบมาลงหลักปักฐานที่ผืนแผ่นดินไทย ก็ได้นิยมทำเครื่องปั้นดินเผา เช่น หม้อ ไห ตุ่มใส่น้ำ ของใช้ในครัวเรือน ไปจนถึง “อิฐมอญ” หรือเรียกอีกอย่างว่า “อิฐแดง” วัสดุที่ใช้สำหรับสร้างวัดวาอาราม ซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวมอญชำนาญเป็นอย่างมากมาตั้งแต่สมัยที่ยังอยู่ในบ้านเมืองของตน มีรูปร่างเป็นก้อนสี่เหลี่ยมผืนผ้า สีส้มอมแดง ไปจนถึงน้ำตาล
อิฐมอญ เริ่มต้นเป็นที่รู้จักจากการที่เจ้านายในวังผ่านไปเห็นชาวมอญกำลังทำอิฐดินเผาสร้างวัด จึงได้สั่งให้นำเข้าไปก่อสร้างในวัง ต่อมาเห็นว่ามีความแข็งแกร่ง ทนทานดี อิฐมอญจึงกลายเป็นที่รู้จัก และนิยมนำมาใช้ในงานก่อสร้างต่อ ๆ มา จนถึงปัจจุบัน
เดิมทีอิฐแดงจะมีลักษณะตัน ทำด้วยมือทีละก้อน ๆ ซึ่งก็คือ “อิฐโบราณ” ในปัจจุบัน แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ได้มีการพัฒนาให้อิฐแดงมีลักษณะ และขนาดที่หลากหลายมากขึ้น จึงได้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ร่วมในการผลิตอิฐมอญด้วย ประเภทของอิฐมอญในปัจจุบัน มีทั้งแบบตัน คืออิฐตันมือ และอิฐตันเครื่อง คล้ายอิฐโบราณ แต่ขนาดเล็กกว่า และอิฐมอญแบบกลวง ตั้งแต่ 2 รู, 3 รู, 4 รู ไปจนถึง 8 รู เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย
นอกจากนี้ยังมีอิฐมอญที่ได้รับเครื่องหมาย มอก. จากสำนักงานมาตรฐารผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เช่น อิฐมอญ มอก.77-2545 อิฐมอญลัษณะตัน ขนาด 4×6.5×14 ซม. มีความหนาแน่น แข็งแกร่ง หรืออิฐมอญ มอก.153-2540 อิฐมอก. ชนิดกลวง เช่น อิฐมอญ มอก. 3 รู ใหญ่ ขนาด 6.5x11x25 ซม. และอิฐมอญ มอก. 4 ช่อง ขนาด 6.5x11x25 ซม. ซึ่งอิฐมอญ มอก. เป็นอิฐมอญที่มีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษ เหมาะกับการนำไปใช้ก่อสร้างในงานโครงการ ศูนย์ราชการ อาคารศึกษา มหาวิทยาลัย
ขั้นตอนการผลิตอิฐมอญ
1. เตรียมดิน โดยการนำดินเหนียวปนทรายเล็กน้อย มาหมักรวมกับขี้เถ้าแกลบจากการเผาในครั้งก่อน และน้ำ ในบ่อหมัก ทิ้งไว้ประมาณ 1 – 2 คืน เพื่อรอการรีดขึ้นรูป ซึ่งดินเหนียวที่เหมาะจะนำมาใช้ผลิตทำอิฐแดงก็จะอยู่ในแถบ จ.สิงห์บุรี หรือ จ. อ่างทอง
2. นำดินที่ได้ไปปั่นในเครื่องปั่นให้ดินเป็นเนื้อละเอียด หรือย่ำดินเหนียวด้วยเท้า เพื่อให้ส่วนผสมในเนื้อดินเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน อิฐแดงที่ได้จะมีความหนาแน่น และเรียบเนียนดี
3. นำดินเหนียวมารีดขึ้นรูปด้วยเครื่องรีด อัด และตัดให้เป็นก้อน ซึ่งใช้สำหรับการผลิตอิฐชนิดกลวง และอิฐตันเครื่อง หรือใช้บล็อกไม้ที่ใช้สำหรับเป็นแม่พิมพ์อิฐตันมือ
4. นำอิฐดิบที่รีดขึ้นรูปเรียบร้อยแล้วไปผึ่งลมในที่ร่ม ประมาณ 3 – 4 วัน เพื่อป้องกันการหดตัวของอิฐอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดการแตกหัก หลังจากนั้นจึงนำไปตากแดดต่ออีกประมาณ 3-4 วัน หรืออาจนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของผู้ผลิตว่าอิฐดินดิบมีความพร้อมที่จะนำไปเผาแล้วหรือไม่
5. นำอิฐดิบที่ตากแห้งเรียบร้อยแล้ว ไปเผาในเตาชั่วคราว ลักษณะเป็นเตาสี่เหลี่ยมจากการก่ออิฐแดงล้อมรอบ และใช้แผ่นโลหะปิดทับอีกที ซึ่งขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นขั้นตอนที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุด เพราะต้องใช้เชื้อเพลิงอย่างแกลบราคาตันละเกือบ 2,000 บาท ไม่น้อยกว่า 2 คัน รถสิบล้อ ผู้ผลิตจึงนิยมเผาอิฐแดงครั้งละมาก ๆ ประมาณ 70,000 – 100,000 ก้อน ในอุณหภูมิ 800-900 องศาเซียลเซียส ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 7-15 วัน ที่อิฐดิบจะสุก เป็นสีส้มสวย และแข็งแกร่ง พร้อมใช้งาน
ลักษณะของอิฐมอญที่ดี
- ลักษณะตรง ไม่แอ่น โค้งงอ
- มีเหลี่ยมมุมที่ชัดเจน ไม่แตกหัก เสียหาย
- ขนาดสม่ำเสมอเท่ากันทุกก้อน
- สีส้มอมแดง หรือสีน้ำตาลแดงสวย ไม่ซีด หรือเป็นสีดำ แปลว่าอิฐมอญอาจจะยังไม่สุก หรือสุกเกินไป ซึ่งจะทำให้อิฐมอญไม่แข็งแกร่ง
- แข็งแกร่ง ไม่แตกหักง่าย
- เมื่อลองนำอิฐมอญมากระทบกันจะต้องได้ยินเสียงใส ๆ คล้ายแก้ว หรือโลหะ
นอกจากนี้ยังมีอีกชนิดอื่น ๆ ที่มีต้นแบบมาจากอิฐมอญ โดยใช้วัสดุในการผลิตเหมือนกัน และมีสีสันคล้ายกัน ต่างกันที่รูปลักษณ์ และขั้นตอนการผลิตบางขั้นตอน ที่จะขึ้นอยู่กับอิฐมอญแต่ละประเภท เช่น อิฐมอญก่อโชว์ มีทั้งแบบเรียบ และแบบมีลาย อิฐประสานที่สามารถก่อได้โดยไม่ต้องใช้ปูน
ข้อมูลอ้างอิง : โยธาสาร ปีที่ 25
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม