ไอเดียตกแต่งผนังในยุคปัจจุบันนั้นมีเยอะแยะ มากมาย และหนึ่งในไอเดียเหล่านั้นที่นิยมทำกันก็คือการก่อผนังอิฐแดงโชว์แนว โชว์พื้นผิวสัมผัสของวัสดุ วันนี้อิฐดีดีเลยนำแพทเทิร์นก่ออิฐแดงรูปแบบต่าง ๆ มาฝากทุกคน เพื่อเป็นตัวเลือกใหม่ ๆ ให้กับใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะก่อผนังในรูปแบบไหนดี จะมีรูปแบบไหนเข้าตาบ้าง ไปดูกันเลย
Stretcher Bond
รูปแบบการก่ออิฐพื้นฐาน ที่เรามักเห็นอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อผนังอิฐฉาบปูน หรือผนังอิฐโชว์แนว ส่วนมากก็มักจะก่อในรูปแบบ Stretcher bond โดยใข้อิฐแดงขนาดเท่ากันมาก่อเรียงต่อกัน เมื่อขึ้นแถวใหม่จะก่อแบบสลับแนวกับชั้นล่าง และก่อแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนเต็มแผง หรือเต็มพื้นที่ที่ต้องการ
Stack Bond
รูปแบบการก่ออิฐที่ง่ายที่สุด ไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงก่ออิฐเรียงต่อกันไปเรื่อย ๆ และเมื่อขึ้นแถวใหม่ก็ไม่จำเป็นต้องก่อในรูปแบบสลับฟันปลา สิ่งที่ต้องคำนึงในการก่อผนังอิฐรูปแบบนี้ คือต้องดูให้ทุกแถวมีแนวอิฐที่ตรงกัน นอกจากนี้ การก่อด้วยแพทเทิร์น Stack Bond ก็เป็นการก่อที่แทบไม่ต้องทำการตัด หักอิฐแดง ทิ้ง หรือแบ่งครึ่งไปต่อในจุดอื่น ๆ เลย
Vertical Stack Bond
Vertical Stack Bond เป็นการก่อในแพทเทิร์น Stack Bond อีกรูปแบบหนึ่ง โดยแพทเทิร์น Stack Bond จะก่ออิฐแดงในแนวนอนปกติ แต่สำหรับแพทเทิร์น Vertical Stack Bond จะก่ออิฐแดงในแนวตั้ง แต่ยังคงความก่อง่าย ไม่ซับซ้อนไว้เหมือนเดิม
Course Ashlar Bond
ดัดแปลงมาจาก Ashlar Stone คือการนำหินแอชลาร์มาปูพื้นในรูปแบบต่าง ๆ แต่ในแพทเทิร์น Course Ashlar Bond เป็นการนำอิฐแดงมาก่ออย่างง่าย โดยใช้อิฐแดงขนาดเท่ากันมาก่อสลับกัน เริ่มจากก่อแถวแรกจะก่อโดยเลือกโชว์อิฐแดงด้านหน้ากว้างในแนวนอน ซึ่งต้องก่อแบบ 2 ก้อนซ้อนกัน เพื่อให้มีความหนาเท่ากับแถวบนที่ใช้อิฐแดงโชว์ด้านสูง หรือด้านสัน ก่อสลับฟันปลา แถวสลับแถวไปจนเต็มพื้นที่
Flemish Bond
แพทเทิร์นก่ออิฐที่เก่าแก่ที่สุด ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศแถบตะวันตก เป็นการก่อสลับกันระหว่างอิฐแดงหน้ายาว 2 ก้อนซ้อนกัน กับอิฐแดงหน้าตัด หรือหากต้องการประหยัดงบ ก็อาจจะตัดอิฐแบ่งครึ่ง แต่อย่าลืมว่าเมื่อตัดมาแล้ว จะต้องมีความกว้างเท่ากับอิฐแดงที่ยังไม่ได้ตัด เพื่อให้ผนังเรียบเสมอกัน จึงควรใช้อิฐแดงที่มีขนาดความยาวเป็น 2 ส่วนของความกว้าง ตัวอย่างเช่น อิฐโบราณ เผาแกลบ ขนาด 5x10x20 ซม. เมื่อตัดแบ่งครึ่ง ก็จะได้ความหนาเท่ากับ 10 ซม. พอดี ซึ่งการก่อลักษณะเหมาะกับการก่อผนังภายในมากกว่าภายนอก
English Bond
แพทเทิร์นที่มีความคล้ายคลึงกับ Flemish bond โดยก่ออิฐแดงด้านหน้ายาว 2 ก้อนซ้อนกัน 1 แถว และก่ออิฐแดงโชว์หน้าตัดในแถวถัดมา สลับฟันปลากันเหมือนแพทเทิร์น Stretcher Bond และสลับกันไปเรื่อย ๆ การก่ออิฐแดงในลักษณะนี้จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้าง ซึ่งเป็นลักษณะการก่อที่เป็นที่นิยมสำหรับอาคารในอังกฤษ จึงเป็นที่มาของชื่อ English Bond
Common Header Bond
แพทเทิร์นที่ผสมผสานกันละหว่างการก่อรูปแบบ Stretcher Bond เต็มแผ่น 4 แถว สลับกับการก่ออิฐแนวขวาง หน้าตัด 1 แถว ต่อกัน เพื่อความสวยงาม และเพิ่มแรงยึดเหนียวที่ดีขึ้น ทำให้ผนังแข็งแกร่ง
Monk Bond
ดูเผิน ๆ แล้วอาจคล้ายคลึงกับการก่อแบบ flemish bond แต่การก่อแบบ monk bond จะก่อแบบเรียงอิฐแนวนอน 2 ก้อนต่อกัน สลับกับอิฐแนวขวางหน้าตัด 1 ก้อน ไปเรื่อย ๆ เมื่อขึ้นแถวใหม่ก็ก่อสลับช่องไฟกับแถวด้านล่าง เหมือนกับการก่อรูปแบบ Stretcher Bond
Basket Weave Bond
การก่ออิฐแดงคล้ายการสานตะกร้า โดยการก่ออิฐในตั้ง 3 ก้อน ซ้อนกัน สลับกับแนวนอน 3 ก้อนซ้อนกัน บางครั้งอาจใช้เพียง 2 ก้อน ขึ้นอยู่กับขนาดของอิฐแดงที่เลือกใช้ เมื่อวางซ้อนกันแล้วไม่ว่าด้านในจะได้ออกมาเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเสมอ ซึ่งการก่อในรูปแบบนี้ยังนิยมนำไปปูพื้นอีกด้วย
เป็นอย่างไรบ้างครับกับ 9 แพทเทิร์นก่ออิฐที่ทางเรานำมาฝาก ยังมีอีกหลากหลายแพทเทิร์น และคุณก็สามารถออกแบบแพทเทิร์นก่ออิฐเป็นของคุณเองได้ เพราะการออกแบบไม่มีข้อจำกัด เพียงคำนึงถึงความแข็งแรง ทนทานของผนัง เท่านี้ก็ลุยได้เลย
ข้อมูลอ้างอิง : itdang2009.com