การสร้างบ้านหน้าฝน โบราณเขาถือว่าเป็นฤกษ์ยามที่ไม่ดี จะทำอะไรก็ติดขัด ควรหลีกเลี่ยง ไม่ควรก่อสร้างในช่วงนี้ จะทำให้เกิดสิ่งไม่ดีกับบ้าน ก็แน่ล่ะครับ เพราะความเปียกชื้นจากน้ำฝนที่ตกลงมาย่อมสร้างปัญาให้งานก่อสร้างอยู่แล้ว แต่เพียงเรารู้ก่อนว่าการสร้างบ้านหน้าฝนจะต้องเจอกับปัญหาอะไรบ้าง และจะต้องมีการรับมืออย่างไร ซึ่งอิฐดีดีได้รวบรวมปัญหาหลักไว้ในบทความนี้เรียบร้อยแล้ว เท่านี้การสร้างบ้านในหน้าฝนก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
1. ปัญหาความปลอดภัยในการก่อสร้าง
แน่นอนว่าเมื่อเห็นฝนเริ่มตั้งเค้า ฟ้ามืดดำ คนส่วนใหญ่ที่กำลังทำงานในที่โล่งแจ้งก็คงยุติงานที่ทำอยู่ ไม่ได้ฝืนตากฝนทำงานต่อ เพราะฝนจะทำให้เกิดอาการหวัด เป็นไข้ ไม่สบาย จนร่างกายอ่อนแอได้ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากกว่าเรื่องของสุขภาพ ก็คือเรื่องของอุบัติเหตุระหว่างการทำงานที่อาจมาพร้อมกับลม ฟ้า อากาศจากธรรมชาติ เช่น ฟ้าผ่า ฝนตกทำให้ลื่นจากการปีนป่ายบนที่สูง
นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงเรื่องอุบัติเหตุลัดวงจรจากความเปียกชื้น เพราะฉะนั้นคุณควรติดตั้งแผงสวิตช์ไฟที่ใช้ในการทำงาน ในจุดที่มีหลังคาปกคลุม และต้องเป็นจุดที่ฝนสาดไม่ถึง รวมทั้งห้ามเดินสายไฟลงพื้นเด็ดขาดไม่ว่าสายไฟนั้นจะมีร่องรอยของการชำรุดหรือไม่ ควรเดินสายไฟโดยระบบตั้งเสา หรือมีวัสดุอื่น ๆ มารองรับแทน เพื่อไม่ให้สายไฟสัมผัสกับน้ำฝน
2. ปัญหาสภาพพื้นที่โดยรอบ
ฝนตกทำให้พื้นโดยรอบชื้นแฉะ และเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพื้นดินเป็นร่องลึก ทำให้การสัญจร ขนส่งวัสดุก่อสร้างเป็นไปได้ยาก เพราะอาจเกิดปัญหารถติดหล่ม และถึงแม้รถจะเข้าไปได้ ก็จะมีปัญหาความสกปรกที่ติดมาจากล้อรถ วิธีแก้ปัญหาคือการนำแผ่นไม้กระดานมาวางรองบนพื้นเพื่อเป็นวัสดุทดแทนให้รถบรรทุก หรือรถขนวัสดุแล่นผ่านไปได้
รวมถึงปัญหาดินทรุดตัว หน้าดินไหล โดยเฉพาะดินที่ถมใหม่ยังไม่แน่นพอ อาจพังทลายไปกระทบกับโครงสร้าง และถังเก็บน้ำใต้ดินได้ วิธีแก้ปัญหา คือต้องขุดปากหลุมให้กว้างขึ้นกว่าเดินด้านละประมาณ 50 ซม. เพื่อรองรับดินที่จะไหลลงไป หากหลุมมีความลึกมากกว่า 2 เมตรควรทำคันกั้นดินเพื่อป้องกันดินถล่ม โดยใช้เสาเข็มไม้ล้อมก่อนขุดดิน
3. ปัญหางบประมาณบานปลาย
งานก่อสร้าง เป็นงานที่ต้องใช้หลากหลายวัสดุ ซึ่งในช่วงหน้าฝน วัสดุบางประเภทก็อาจมีการขึ้นราคาเล็กน้อย จากการผลิตที่ยากขึ้น เช่น อิฐแดง หรือการขนส่งที่ต้องมีการป้องกันมากขึ้น เช่น การขนส่งเหล็ก หรือถุงปูนซีเมนต์ที่ไม่สามารถโดนน้ำได้ วิธีแก้ปัญหาคือการวางแผนสั่งซื้อวัสดุ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการก่อสร้างล่วงหน้า
นอกจากนี้หากสินค้ามีการเสียหายจากความชื้น ก็จะต้องสั่งซื้อใหม่ รวมถึงเรื่องค่าแรงคนงาน เพราะงานมีการยืดเวลาออกไปเนื่องจากอุปสรรคที่เกิดจากฝน และปัญหาอีกมากมาย อาจต้องเตรียมงบประมาณสำรองเพื่อเอาไว้เป็นก้อนที่ 2 ในกรณีฉุกเฉิน และต้องวางแผนการใช้งบประมาณให้ดี ทั้งนี้ควรปรึกษาวิศวกร หรือสถาปนิกควบคู่ไปด้วย
4. ปัญหาความเสียหายของวัสดุ
อีกหนึ่งปัญหาที่ควรให้ความสำคัญ เพราะไม่ใช่แค่แรงงานที่จะทำให้งานเดินต่อไปได้เท่านั้น แต่วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างก็เป็นสิ่งที่ทำให้งานสามารถดำเนินไปได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นหากทำการก่อสร้างในน่าฝน คุณควรจะต้องมีพื้นที่สำหรับเก็บวัสดุที่สามารถป้องกันฝน และความเปียกชื้นได้ ซึ่งวัสดุที่สำคัญ และต้องเก็บให้มิดชิดเป็นพิเศษสามาถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้
1. ปูนซีเมนต์ ต้องเก็บในห้อง หรือพื้นที่ที่มีหลังคาปกคลุมมิดชิด และต้องเก็บโดยยกสูงจากพื้น ซึ่งอาจจะมีแผ่นพลาสติก หรือผ้าใบคลุมไว้อีกที เพื่อลดโอกาสที่ถุงปูนจะสัมผัสกับความเปียกชื้น เป็นเหตุให้ปูนแข็งตัว และไม่สามารถนำมาใช้งานได้
2. เหล็กเส้น เหล็กรูปพรรณ ต้องเก็บในพื้นที่ที่มีหลังคาปกคลุม โดยที่ฝนไม่สามารถสาดถึงได้ และต้องยกสูงจากพื้นเช่นเดียวกับปูนซีเมนต์ เพื่อป้องกันเหล็กขึ้นสนิม และหากมีการขึ้นสนิมก็ควรนำเหล็กไปขัดสนิมออกเพื่อไม่ให้สนิมกินเข้าไปถึงเนื้อเหล็ก
3. ทราย และหิน เป็นวัสดุที่ถึงแม้จะโดนน้ำได้ ไม่เกิดการเสียหาย แต่ก็อาจจะมีสิ่งสกปรกอย่างโคลนปนเปื้อนได้ เมื่อนำมาผสมกับปูนจะทำให้ปูนไม่มีประสิทธิภาพ จึงควรล้างทราย และปูนให้สะอาดก่อนนำมาใช้งาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และเพิ่มเวลาในการก่อสร้าง การแก้ปัญหาที่ดีคือควรจะมีแผ่นผ้าใบ หรือพลาสสิกวางรองไว้ด้านล่างตั้งแต่เริ่มมีการขนส่งเข้ามา
5. ปัญหางานเสร็จล่าช้า ไม่เป็นไปตามแผน
เมื่อเกิดปัญหาต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องความปลอดภัย งบประมาณ การเสียหาย และขาดแคลนวัสดุ หรือสภาพพื้นที่โดยรอบที่ไม่อำนวยต่อการดำเนินงาน ก็เป็นสิ่งที่ส่งผลให้งานทั้งหมดเกิดความล่าช้า ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เพราะฉะนั้นคุณควรวางแผนการปฎิบัติงานให้ดี โดยทำตามคำแนะนำในปัญหาข้อที่ 1 – 4
ไม่เพียงเท่านั้น ความเปียกชื้นยังส่งผลเสียให้กับงานก่อสร้างด้วย เช่น ปูนก่อฉาบ ไม่แห้ง หรือแห้งช้าขึ้น ก็ต้องยืดเวลาการก่อสร้างออกไป ปัญหาในการทาสี เนื่องจากความชื้นจะทำให้สีที่ทาโป่งพอง และหลุดลอกออก จึงควรเลี่ยงการทาสีในหน้าฝน แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องวางแผนการทาสีให้ดี ติดตามการพยากรณ์อากาศ และรีบดำเนินการในช่วงที่ฝนยังไม่ตก เพื่อพอมีเวลาให้สีแห้งตัวได้ทัน และใช้ผ้าใบคลุมไว้
ข้อมูลอ้างอิง : dsignsomething.com